เดี๋ยวนี้การออกแบบบ้าน หรือที่อยู่ให้สวยงาม ดีไซน์ทันสมัย สร้างบ้านให้น่าอยู่อย่างเดียวก็ไม่เพียงพอแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้มีเทรนด์การออกแบบบ้านให้ดีต่อสุขภาพจิตขึ้นมา เพราะนอกจากจะทำให้บ้านของเราสวย ทันสมัยแล้ว ต้องดีต่อสุขภาพจิตด้วย แต่ถ้าคุณยังรู้สึกว่าบ้านที่มีอยู่ยังไม่ใช่ เรามีเคล็ดลับทางจิตวิทยาที่ช่วยเสริมให้บ้านน่าอยู่ ดีต่อใจมากขึ้น
6 วิถีปรับบ้านให้น่าอยู่ที่ดีต่อสุขภาพจิต
ปรับแต่งสีภายในบ้าน
ทำให้บ้านของคุณรู้สึกสดใส่มากขึ้นด้วยการใช้สี โดยแต่ละสีจะช่วยเสริมการรับรู้บรรยากาศที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างเช่น โทนสีฟ้า จะทำให้บ้านดูเจริญปัญญาและสร้างความผ่อนคลายให้กับคนในบ้าน แต่ถ้าเป็นโทนสีแดงจะช่วยกระตุ้นความเร่งเร้า สีเหลืองสำหรับความสดใสและอารมณ์เชิงบวก หรือสีพาสเทลมีความละมุน
ปรับลดรายละเอียด
การมีข้าวของเยอะเกินไป จะทำให้บ้านรู้สึกอึดอัด จะเดิน จะนั่ง จะขยับไปไหนก็ไม่สะดวก ดังนั้นพยายามลดละเลิกนิสัยซื้อของมาสะสม และพยายามตัดสินใจทิ้งหรือบริจาคของที่ไม่จำเป็นออกไป
ปลูกต้นไม้
การจะเพิ่มพลังบวกให้กับชีวิต เพียงแค่นำต้นไมสีเขียวไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็ช่วยปรับแต่งบ้านได้ตามความเหมาะสม ทำให้คุณหายใจได้โล่ง ปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น แถมสีเขียวของต้นไม้ยังทำให้บ้านของคุณร่มรื่น รู้สึกสบายใจมากขึ้น
ประตูบ้าน
ให้ความสำคัญกับประตูบ้าน อย่าปล่อยให้หญ้าแห้ง ต้นไม้เหี่ยว หรือดูรก ดูสกปรก มาปิดกั้นขวางทางพลังงานบวกที่จะเข้าสู่บ้าน วางของแต่งบ้านที่ชอบไว้เพื่อความรู้สึกการได้กลับถึงบ้านอย่างแท้จริง อาจจะเพิ่มของตกแต่งที่ช่วยให้รู้สึกอบอุ่น
วางแผนตกแต่งบ้านระยะยาว
การตกแต่งบ้านให้สวยงาม จะต้องเลือกการตกแต่งที่ไม่มีวันเชย หมกอายุไปตามกาลเวลา หรือเรียกว่าของตกแต่งบ้านที่เป็นแฟชั่นเพราะคุณจะต้องเปลี่ยนของตกแต่งอยู่บ่อยๆ แล้วก็แนะนำให้ไม่ต้องเลือกของตกแต่งที่ราคาแพงเกินไป แต่เน้นที่สามารถใช้ในระยะยาวได้
ตัดขาดจากโลกภายนอก
การสร้างมุมพักผ่อนที่ทำให้คุณรู้สึกพักผ่อนอย่างจริงจัง อย่างเช่นในห้องนอนควรตัดอุปกรณ์พวกอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ออกไปให้หมด เพื่อหลักเลี่ยงแสงสีฟ้าที่ทำให้คุณตื่นตัว ซึ่งอาจทำให้คุณนอนไม่หลับได้
และนี่คือ 6 เรื่องที่ใครอยากจัดบ้านให้มีความรู้สึกสุขภาพจิตดี ทั้งนี้หากคุณต้องการบริการออกแบบตกแต่งภายในบ้าน ราคาถูกให้ตรงไปตามที่เราบอกไป ก็สามารถจ้างบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในบ้านอย่าง Us Furnish ได้เลย